วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กระแสใหม่ แพล้งกิ้งเหรอ ก็โอเค แต่ชั่วโมงนี้ ยกให้"พับเพียบไทยแลนด์"

ว่าแล้วไง คนไทยเราสร้างสรรค์จะตายไป นะครับ
ในขณะที่ "แพลงกิ้ง" ระบาดเหมือนโรค ไฟลามทุ่ง เสมือนโลกนี้เป็นเรือนกาย และไอ้เจ้า "แพลงกิ้ง" ก็ได้วิวัฒน์พัฒนาสายพันธุ์ไป เป็น Nude Planking ซะแล้วล่ะสิ
ผิดทั้งศีลธรรม จรรยาบรรณ ไม่ได้ว่าคนทำนะ จะทำก็เรื่องของคุณ มันอันตราย อาจทำให้ตายหรือพิการ

ในความพิสดาร ก็เกิดความพิศดารแบบน่ารัก ๆ ดูมีวัฒนธรรมเกิดขึ้น คือการนั่ง "พับเพียบไทยแลนด์"  ไม่ธรรมดานะเด็กบ้านเรา สามารถสร้างกระแสความนิยมของวัยรุ่นชาวไทยอย่างรวดเร็ว

มีรายงานว่า ยอดคลิกล่าสุดของแฟนเพจ "พับเพียบไทยแลนด์" เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 20 มิ.ย.นี้ มีประมาณ 153,025 คน
โดยในแฟนเพจมีชาวสังคมออนไลน์เข้ามาโพสต์รูปท่านั่งพับเพียบตามสถานที่ต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะกล่าวในทำนองชื่นชอบ ชื่นชมเอกลักษณ์ไทยที่มีดีไม่เหมือนใคร รวมถึงข้อความที่โพสต์บอกว่าจะลองทำเลียนแบบแล้วนำมาโพสต์ขึ้นเว็บไซต์
 แฟนเพจพับเพียบไทยแลนด์ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าต้องการแหวกกระแสการทำแพลงกิ้ง นำความเป็นไทยเข้ามาใส่ เน้นไม่อันตราย งามอย่างไทย และผู้ใหญ่รัก แต่ยังมีผู้โพสต์บางส่วนนำภาพท่านั่งพับเพียบที่ส่อแววก่อให้เกิดอันตรายมาโพสต์เช่นกัน อาทิ นั่งพับเพียบบนตู้เย็น นั่งพับเพียบบนชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นต้น
 นอกจากนี้ยังมีการทำ "เลวิเทติ้ง (Levitating)" คือ การถ่ายภาพขณะที่ร่างกายลอยค้างอยู่กลางอากาศ และไม่มีอวัยวะใดสัมผัสกับพื้น ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวสังคมออนไลน์เช่นกัน
 น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พบการเล่นแพลงกิ้งรูปแบบใหม่ คือ นู้ดแพลงกิ้ง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติจะแก้ผ้าทำท่าต่างๆ เช่น ในตู้ปลา อ่างอาบน้ำ หรือบนหลังตู้ และสถานที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังพบภาพลักษณะเหมือนหญิงสาวชาวเอเชียเปลือยกายแพลงกิ้งบนเก้าอี้ในห้องนอน ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งมีการลิงค์ไปยังเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นหญิงคนไทยหรือไม่
 น.ส.ลัดดากล่าวว่า รู้สึกหวาดเสียวและน่ากลัวเห็นจะเป็นภาพที่ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งแก้ผ้า และทำท่าแพลงกิ้งลงในตู้ปลา รวมทั้งต้องเกร็งคอ เกร็งตัว หากเกิดเป็นตะคริวหรือกระแสไฟฟ้าในตู้ปลารั่ว อาจจะจมน้ำเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนประชาชนไม่ควรทำนู้ดแพลงกิ้งแม้จะไม่เห็นอวัยวะเพศก็ตาม แต่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่สร้างสรรค์ และไม่ควรกระทำ หากจะทำเล่นที่ห้องนอนส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรนำภาพมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กหรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งนี้ สำนักเฝ้าระวังฯ จะทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้บล็อกและหาตัวผู้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์มาดำเนินคดีด้วย
 “ฝากเตือนให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตาไม่ให้เด็กของเราเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว หากนำมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจะมีความผิดทางกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนไทยคงจะไม่ทำนู้ดแพลงกิ้ง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม กระทบต่อวัฒนธรรมอันดีงามของไทย” น.ส.ลัดดากล่าว
 น.ส.ลัดดากล่าวว่า ขอชื่นชมกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวทำพับเพียบไทยแลนด์ออกมาปะทะกับแพลงกิ้ง เด็กกลุ่มนี้ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสในการสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทย นำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพื่อรณรงค์ให้เด็กเยาวชนไทยเห็นความสำคัญของความเป็นไทย ไม่อิงกระแสตะวันตกมากจนเกินไป.



เป็นแฟนเพจได้ที่ "พับเพียบไทยแลนด์"

แหล่งที่มา: http://www.thaipost.net/x-cite/210611/40514

กระแสใหม่ แพล้งกิ้งเหรอ ก็โอเค แต่ชัวโมงนี้ ยกให้"พับเพียบไทยแลนด์" Pubpeab Thailand: a creative resolution of Nude Planking

ว่าแล้วไง คนไทยเราสร้างสรรค์จะตายไป นะครับ
ในขณะที่ "แพลงกิ้ง" ระบาดเหมือนโรค ไฟลามทุ่ง เสมือนโลกนี้เป็นเรือนกาย และไอ้เจ้า "แพลงกิ้ง" ก็ได้วิวัฒน์พัฒนาสายพันธุ์ไป เป็น Nude Planking ซะแล้วล่ะสิ
ผิดทั้งศีลธรรม จรรยาบรรณ ไม่ได้ว่าคนทำนะ จะทำก็เรื่องของคุณ มันอันตราย อาจทำให้ตายหรือพิการ

ในความพิสดาร ก็เกิดความพิศดารแบบน่ารัก ๆ ดูมีวัฒนธรรมเกิดขึ้น คือการนั่ง "พับเพียบไทยแลนด์"  ไม่ธรรมดานะเด็กบ้านเรา สามารถสร้างกระแสความนิยมของวัยรุ่นชาวไทยอย่างรวดเร็ว

มีรายงานว่า ยอดคลิกล่าสุดของแฟนเพจ "พับเพียบไทยแลนด์" เมื่อเวลา 14.35 น. วันที่ 20 มิ.ย.นี้ มีประมาณ 153,025 คน
โดยในแฟนเพจมีชาวสังคมออนไลน์เข้ามาโพสต์รูปท่านั่งพับเพียบตามสถานที่ต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะกล่าวในทำนองชื่นชอบ ชื่นชมเอกลักษณ์ไทยที่มีดีไม่เหมือนใคร รวมถึงข้อความที่โพสต์บอกว่าจะลองทำเลียนแบบแล้วนำมาโพสต์ขึ้นเว็บไซต์
 แฟนเพจพับเพียบไทยแลนด์ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าต้องการแหวกกระแสการทำแพลงกิ้ง นำความเป็นไทยเข้ามาใส่ เน้นไม่อันตราย งามอย่างไทย และผู้ใหญ่รัก แต่ยังมีผู้โพสต์บางส่วนนำภาพท่านั่งพับเพียบที่ส่อแววก่อให้เกิดอันตรายมาโพสต์เช่นกัน อาทิ นั่งพับเพียบบนตู้เย็น นั่งพับเพียบบนชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นต้น
 นอกจากนี้ยังมีการทำ "เลวิเทติ้ง (Levitating)" คือ การถ่ายภาพขณะที่ร่างกายลอยค้างอยู่กลางอากาศ และไม่มีอวัยวะใดสัมผัสกับพื้น ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวสังคมออนไลน์เช่นกัน
 น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พบการเล่นแพลงกิ้งรูปแบบใหม่ คือ นู้ดแพลงกิ้ง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติจะแก้ผ้าทำท่าต่างๆ เช่น ในตู้ปลา อ่างอาบน้ำ หรือบนหลังตู้ และสถานที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังพบภาพลักษณะเหมือนหญิงสาวชาวเอเชียเปลือยกายแพลงกิ้งบนเก้าอี้ในห้องนอน ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งมีการลิงค์ไปยังเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นหญิงคนไทยหรือไม่
 น.ส.ลัดดากล่าวว่า รู้สึกหวาดเสียวและน่ากลัวเห็นจะเป็นภาพที่ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งแก้ผ้า และทำท่าแพลงกิ้งลงในตู้ปลา รวมทั้งต้องเกร็งคอ เกร็งตัว หากเกิดเป็นตะคริวหรือกระแสไฟฟ้าในตู้ปลารั่ว อาจจะจมน้ำเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนประชาชนไม่ควรทำนู้ดแพลงกิ้งแม้จะไม่เห็นอวัยวะเพศก็ตาม แต่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ไม่สร้างสรรค์ และไม่ควรกระทำ หากจะทำเล่นที่ห้องนอนส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรนำภาพมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กหรืออินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งนี้ สำนักเฝ้าระวังฯ จะทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ให้บล็อกและหาตัวผู้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์มาดำเนินคดีด้วย
 “ฝากเตือนให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตาไม่ให้เด็กของเราเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว หากนำมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจะมีความผิดทางกฎหมายได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนไทยคงจะไม่ทำนู้ดแพลงกิ้ง เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม กระทบต่อวัฒนธรรมอันดีงามของไทย” น.ส.ลัดดากล่าว
 น.ส.ลัดดากล่าวว่า ขอชื่นชมกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวทำพับเพียบไทยแลนด์ออกมาปะทะกับแพลงกิ้ง เด็กกลุ่มนี้ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสในการสร้างเอกลักษณ์ความเป็นไทย นำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพื่อรณรงค์ให้เด็กเยาวชนไทยเห็นความสำคัญของความเป็นไทย ไม่อิงกระแสตะวันตกมากจนเกินไป.


เป็นแฟนเพจได้ที่

แหล่งที่มา: http://www.thaipost.net/x-cite/210611/40514

วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Verb Tense

อาจารย์ไบรอั้นได้สรุปความจากหนังสือของอาจารย์อาซาร์ไว้ว่า ดูเอานะ
Verb Tense Review









กลับไปยังหน้าหลักของ วิชา 890102 Fundamental Reading and Writing เพื่อทบทวนเรื่องอื่น ๆ

20 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด ทางด้านการเรียนการสอน ของสหราชอาณาจักร Top Twenty University of UK

อันดับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร ประจำปี 2012 โดยหนังสือพิมพ์ The Guardian โดยดูจากความยอดเยี่ยมของการเรียนการสอน 

ปีที่เขียนคือปีที่นักศึกษาจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เช่นอันดับของปี 2012 ก็คืออันดับสำหรับนักเรียนที่จะเรียนมัธยมศึกษาเป็นปีสุดท้ายในปี 2011-12 และจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในเดือนกันยายน ปี 2012 ต่อไป


ยู อ๊อฟ เคมบริดจ์ ครับ
อันดับ(2012)  อันดับ(2011) มหาวิทยาลัย         
1                         2              University of Cambridge (Cambridge, England)        
2                         1              University of Oxford (Oxford, England)
3                         4              University of Saint Andrews (Fife, Scotland)
4                         8              LSE, University of London (London, England)
5                         5              UCL, University of London (London, England)
6                         3              University of Warwick (Coventry, England)
7                         6              Lancaster University (Lancaster, England)
8                        17              Durham University (Durham, England)
9                         9              Loughborough University (Loughborough, England)
10                       7              Imperial College (London, England)
11=                    14              University of Exeter (Exeter, England)
11=                    15              University of Sussex (Brighton and Hove, England)
13                      11              SOAS, University of London (London, England)
14                      13              University of Bath (Bath, England)
15                       9              University of York (York, England)
16                      15              University of Edinburgh (Edinburgh, Scotland) 
17                      12              University of Leicester (Leicester, England)
18                      19              University of East Anglia (Norwich, England)
19                      21              University of Nottingham (Nottingham, England)
20                      20              University of Surrey (Guildford, Surrey, England)


ที่มา: http://www.guardian.co.uk/education/table/2011/may/17/university-league-table-2012

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2191357#ixzz1O0s0WHXt