วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

Error Corrections-Set 1 for Section 16

สำหรับใครที่อยากดูงานทุกชิ้น ให้คลิก สารบัญงานทั้งหมด

มาลด errors ในงานเขียนภาษาอังกฤษ และอาจจะช่วยเรื่องการพูดได้ด้วย


อันนี้เป็นชุดที่ 1 สำหรับ section 16 เท่านั้นนะ
ประจำวันที่ 15 มกราคม 2557
วิธีการโพสต์

1. ประโยคที่ผิด
2. แก้ให้ถูกต้องคือ
3. คำอธิบาย:
4. โดย ชื่อ นามสกุล รหัสนักศึกษา

เช่น
ประโยคที่ผิด He were very lazy.
แก้ให้ถูกต้องคือ He was very lazy.
คำอธิยาย:   กริยา be ที่เป็น past tense ที่ใช้กับประธาน he, she หรือ it คือ was
ประโยคที่ให้มาผิดเนื่องจากใช้ were กับ he

โดย นางสาวสมเสร็จ เห็ดนางฟ้า รหัส 56434567888

110 ความคิดเห็น:

  1. ประโยคที่ผิด In the photos saw the boats and the islands.
    แก้ให้ถูกต้องคือ In the photos see the boats and the islands.
    คำอธิบาย: ไม่บรบทแสดงเวลา จะต้องเป็น Present Simple
    โดย นายสุนทร อินทฤทธิ์ รหัสนักศึกษา 5640410773

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประโยคที่สมบูรณ์ ควรจะเห็นประธาน และกริยาก่อนครับ
      ในประโยคนี้ เหตุการณ์สามารถเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ เพราะยังไม่มีการบอกเวลากำกับไว้ แต่สิ่งที่ขาดไป คือประธานครับ ใส่ประธานก็สมบูรณ์ และอย่าลืม comma หลัง In the photos ด้วยครับ / อ. แพรี่

      ลบ
    2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    3. In this photo, you'll can see many boats and an islands.

      ลบ
    4. ที่เขียนมา you'll can see many boats and the islands.
      you เป็นประธาน มี will ซึ่งเป็นกริยาช่วยหรือ modal; verb แล้ว จะมี can อีกไม่ได้นะครับ ทบทวนเรื่องการใช้ will, can เพื่อแต่งประโยคด้วยนะครับ

      ลบ
    5. In this photo, you can see many boats and an islands.

      ลบ
    6. ถูกแล้วครับ ชื่นใจหน่อยนึง... แสดงว่าเข้าใจบ้างแล้วนะครับ/ Aj. Perry

      ลบ
  2. ประโยคที่ผิด There are many water in the pond.
    แก้ให้ถูกต้องคือ There are some water in the pond.
    คำอธิบาย : many ผิดเพราะว่า ใช้นำหน้านามนับได้พหูพจน์ แก้ให้ถูกต้องใช้ some เพราะนำหน้านามที่นับไม่ได้(water) และเป็นประโยคบอกเล่า

    โดย นางสาวฉัตรทริกา คุ้มเสน รหัส 5640410718, นางสาวศุภลักษณ์ ปรีชาเรืองฤทธฺ์ รหัส 5640410817

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประโยคนี้ ที่แก้มาถูกแล้วครับ แต่ถ้าเราจะยังคงความหมายของคำว่า "มาก" ให้เหมือนกับคำว่า many ที่ผิด เราจะเขียนประโยคนี้ใหม่ว่าอย่างไร/ อ. แพรี่

      ลบ
    2. There is a lot of water in the pond. เพราะ A lot of ใช้นำหน้านามนับได้และนามนับไม่ได้ มีความหมายว่า "มากมาย" ซึ่งสามารถใช้แทน much และ many ได้

      ลบ
    3. ถือว่าดีแล้วครับ / Aj. Perry

      ลบ
  3. 1. ประโยคที่ผิด : She father is talkative.

    2. แก้ให้ถูกต้องคือ : She's father is talkative.

    3. คำอธิบาย : การใช้ Apostrophe s (...'s) เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ว่า She's father is talkative. พ่อของหล่อนเป็นคนช่างพูด

    4. โดย : น.ส.กษมา ใหม่ด้วง 5640410704 น.ส.ศิริพรรณ กัวถิ้ว 5640410769

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แล้วมีคำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ ที่แปลว่าของหล่อนมั้ยครับใน ภาษาอังกฤษ เช่นถ้าเราจะพูดว่า พ่อของฉัน เราจะใช้ "My father" นึกดูดีดีครับ / อ. แพรี่

      ลบ
    2. Her father is talkative. ค่ะ
      ใช้ her เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของค่ะ

      ลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ15 มกราคม 2557 เวลา 21:54

    ประโยคที่ผิด : They seeked opportunity.
    ประโยคที่ถูกต้อง : They sought for opportunity.
    คำอธิบาย :
    They sought for opportunity.
    แปลว่า พวกเขาแสวงหาโอกาส
    คำว่า seek หากต้องเปลี่ยนเป็น past ต้องใช้คำว่า sought ไม่ใช่ seeked และควรตามด้วยคำว่า for เพื่อเป็นคำแสดงโครงสร้างที่บอกจุดประสงค์ของการกระทำค่ะ ซึ่งคำว่า for มักตามหลังด้วยคำนาม ดิฉันจึงคิดว่า ประโยค They sought for opportunity. เป็นประโยคที่ถูกต้องค่ะ

    นางสาว จันทร์จิรา ชารัตน์ รหัส 5640410711 Section.16
    นางสาว สุวนันท์ ชัยฤกษ์ รหัส 5640410776 Section.16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ที่ตอบมาถูกเกือบหมดแล้วครับ แค่คำว่า
      seek ไม่มี for จะหมายถึง look for หรือ search for ซึ่งจะตรงกับ พวกเขาแสวงหาโอกาส คือประโยคนี้ต้องเขียนว่า They sought opportunity. นะ
      / อ. แพรี่

      ลบ
  5. ประโยคที่ผิด : Not disturb please.
    ประโยคที่ถูกต้อง : Please do not disturb.
    ความหมาย : Please do not disturb. แปลว่า กรุณาอย่ารบกวน
    คำอธิบาย Not disturb please. ผิดเพราะว่่า ใช้ Not ไม่ได้ เพราะ Not จะใช้คู่กับ verb to be และคำคุณศัพท์หรือ adjective มีความหมายในเชิงว่า "ไม่ใช่" ประโยคนี้จึงต้องใช้ Don't ก็คือ Do not แปลว่า "ไม่ทำ อย่า ห้าม" ใช้คู่กับคำกริยา หรือ verb
    ส่วน Please เป็นประโยคคำสั่งหรือขอร้อง อาจจะวางต้นประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ การขอร้องด้วยประโยคนี้ ถือเป็นการขอร้องโดยตรง นิยมใช้โดยทั่วไป

    นางสาวสุกัญญา ยาเตี้ยง รหัส 5640410770 Section.16
    นางสาวนวพรรษอนงต์ ปะลิมิชัย รหัส 5640410772 Section.16

    ตอบลบ
  6. ประโยคที่ผิด : The cookies is sweetly.
    แก้ให้ถูกต้องคือ : The cookies are sweet.

    คำอธิบาย : ตัดคำว่า ly ซึ่งเป็น Adj. ใช้ sweet ในรูปแบบธรรมดา เพราะว่าอยู่หลัง Verb to be ก็จะได้ Adj.ที่ถือว่าขยายประธาน แต่วางตามหลังกริยา มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเป็น "Subjective Complement"

    ส่วน is เปลี่ยนจาก is เป็น are เพราะว่า cookies เป็นนามนับไม่ได้ในรูปของ Plural มีมากกว่าหนึ่งซึ่งอาจจะมีปริมาณมากในขวดโหล ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงคิดว่า The cookies are sweet. เป็นประโยคที่ถูกต้องค่ะ

    โดย นางสาว เบญจวรรณ ศรีนาค รหัส 5640410810 Section 17
    นางสาว อังคณา เพชรคีรี รหัส 5640410823 Section 17

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกต้องในเกือบทุก ๆ คำอธิบายครับ
      ยกเว้นที่บอกว่า cookie เป็นนามนับไม่ได้ครับ
      จริง ๆ แล้ว cookie 1 ชิ่นมีครับ
      คือ One cookie ครับ
      cookie เติม s เป็นรูปพหูพจน์ ครับ ใช้ are ถูกแล้ว

      / Aj. Perry

      ลบ
  7. 1. ประโยคที่ผิด :I very eat at the restaurant.
    2. แก้ให้ถูกต้องคือI eat a lot of food at the restaurant.
    3. คำอธิบาย:คำอธิบาย : เพราะถึงแม้ว่า very จะมีความหมายว่า"มาก" แต่ก็ไม่สามารถใช้ขยายคำว่า eat ซึ่งแปลว่า"รับประทาน"ได้ ดังนั้น จึงต้องใช้ a lot of food เป็นตัวขยายของคำว่า eat แทน ซึ่งจะแปลได้ว่า "ฉันรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากที่ภัตตาคาร"

    นางสาวฐิติวรรณ สังขรัตน์ รหัส5640410724 Section.17
    นางสาววรพนิต ชูทวด รหัส5640410761 Section.17

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ก็ถูกต้องอยู่บ้างครับ
      แต่อยากให้ลองเปลี่ยนแบบไม่มีใส่คำว่า food ลงไปเพิ่ม
      ถ้าให้อธิบายตามหลักไวยากรณ์ก็คือว่า
      very นำหน้า adjective กับ adverb ได้เท่านั้น
      จะขยายกริยาแล้วให้แปล่า "มาก" ต้องใช้ a lot หรือ very much ตามหลังกริยาได้เลย ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเขียนว่า a lot of food.
      เช่น She talks a lot.
      We hope very much.

      / Aj. Perry

      ลบ
    2. ลองอีกประโยคใหม่นะค้ะ
      I eat a lot at the restaurant.
      I eat very much at the restaurant.

      ลบ
    3. ใช่แล้วครับ / Aj. Perry

      ลบ
  8. ประโยคที่ผิด : I'm happy and funny.
    แก้ให้ถูกต้อง : I'm happy and fun.
    คำอธิบาย : เพราะ Funny ไม่ได้ใช้กับตัวเองแต่จะใช้กับคนอื่นหรือเรื่องอื่น

    นางสาว มะลิ แซ่ยี รหัส 5640410754 Section 16
    นางสาว จิตตรา จันทรโชติ รหัส 5640410797 Section 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกต้องครับ แต่ให้ถูกจริง ๆ คือ I'm happy and I have fun. ครับ
      fun เป็นคำคุณศัพท์ที่ใช้บรรยายสิ่งที่เราคิดว่าสนุก เช่นการเล่นเกม Playing games is fun. ส่วน funny แปลว่า น่าขำ หรือชวนหัวเราะ หรือแปลว่าตลก เช่น You are funny. เธอตลกดีนะ

      / อ. แพรี่

      ลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ16 มกราคม 2557 เวลา 03:34

    ประโยคที่ผิด : You should to check with the teacher.
    แก้ประโยคที่ถูก : You should check with the teacher.
    คำอธิบาย : should จะไม่ใช้กับ to และ should + V1 แปลว่า ควรทำหรือเป็นการให้คำแนะนำอยู่แล้ว
    นางสาว รัจนา สมัครแก้ว รหัส 5640410757
    นางสาว สุนีรัตน์ สุเมนต์ รหัส 5640410774
    Section 16

    ตอบลบ
  10. ประโยคที่ผิด : Weera have speaked to the secretary.
    แก้ให้ถูกต้องคือ : Weera has spoken to the secretar.
    คำอธิบาย : ประโยคนี้เป็นประโยค Present Perfect Tense ซึ่งมี
    โครงสร้างของประโยค คือ Subject + has/have +Verb3
    จากประโยค Weera ซึ่งเป็นประธานของประโยคเป็นเอกพจน์
    V.to have จึงต้องใช้ has ซึ่งใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์
    ไม่ใช่ have ที่ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์
    Verb ของประโยคนี้ คือ speak เมื่อทำให้ เป็น Verb3
    ต้องเปลี่ยนรูปจาก speak เป็น spoken ไม่ใช่ speaked

    นางสาว เกศรา วิชาดี รหัส 5640410794 Section.17
    นางสาว ทัตพร ปริฉัตรวัชระกุล รหัส 5640410806 Section.17

    ตอบลบ
  11. ประโยคที่ผิด: I am very tried,I need to vest.
    แก้ให้ถูกต้อง: I was very tried,I need to vest.
    คำอธบาย: เนืองจาก tried เป็นกริยาช่องที่ 2 แต่ am ยังเป็นกริยาช่องที่ 1 เราจึงทำการเปลี่ยนคำกริยาให้เหมือนกัน ดังนั้นเปลี่ยนจากคพว่า am เป็น was
    นางสาวภัทราภรณ์ ปานดำ 5640410750
    นางสาววราลักษณ์ เสียดหนองยุง 5640410764

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ลอกประโยคไปไม่ถูกครับ แล้วก็ยังไม่ถูกทั้งหมด
      ประโยคจองครูคือ I am very tried. I need to rest. ครับ
      เอ้า จัดการดูกันใหม่นะ

      ลบ
  12. ประโยคที่ผิด:Prepare for an exam is not easy.
    แก้ให้ถูกต้อง:Preparation for the exam is not easy.
    คำอธิบาย:Prepare เป็น Verb ต้องเปลี่ยนให้เป็นคำนามเป็น Preparation เนื่องจาก Verb ไม่สามารถเป็นประธานได้ (subject)
    ใช้ The แทน an เพราะ Exam เป็นคำนามนับไม่ได้ an ใช้เฉพาะคำนามนับได้
    1.นางสาว อานิสา นิเซ็ง รหัส 5640410787 sec.16
    2.นางสาว จณิสตา มะสะนิง รหัส 5640410795 sec.16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกแล้วครับ แต่คำอธิบายเรื่อง the ยังไม่ใช่ครับ หาคำอธิบายมาใหม่ ที่อธิบายมามันไม่ใช่อะ/Aj Perry

      ลบ
    2. ใช้ the เพื่อเป็นการชี้เฉพาะเจาะจง

      ลบ
  13. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  14. ประโยคที่ผิด : We no afraid many foreigners.
    แก้ไขให้ถูกต้อง : We not afraid many foreigners.
    คำอธิบาย : no เป็น adjective , not เป็น adverb
    adjective เป็นคำคุณศัพท์ เราเอาไว้ใช้ขยายคำนามเท่านั้นค่ะ
    ส่วน adverb เป็นวิเศษณ์ สามารถขยายได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ adj. adv. ด้วยกันเอง หรือขยายทั้งประโยคก็ได้ แต่ไม่ใช้ขยายคำนาม เพราะว่านั่นจะเป็นหน้าที่ของ adj.
    ใช้คำว่า no หลัง we ไม่ได้ เพราะ คำว่า we เป็นคำ สรรพพนามค่ะ
    นายศักดา ชุ่มเย็น รหัส 5640410768 sec.16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริง ๆ แล้ว ให้ดูคำว่า afraid ครับ เริ่มต้นที่คำว่า afraid
      คำอธิบายตั้งแต่ต้นจบจบยังไม่ใช่
      ลองหาข้อมูล ถามเพื่อน ๆ ดูสิครับ
      เอาใหม่นะ / Aj Perry

      ลบ
    2. แก้ใหม่นะค่ะ
      ประโยคที่ผิด : We no afraid many foreigners.
      แก้ไขให้ถูกต้อง : We are not afraid of many foreigners.
      คำอธิบาย : หน้าคำว่า afraid ต้องมี verb to be นำหน้าเสมอ และเนื่องจากประโยคตัวอย่างเป็นประโยคปฎิเสธ จึงต้องใช้ not ไม่ใช่ no และ หลังคำว่า afraid ต้องมีคำว่า of เสมอ

      ลบ
    3. ถูกต้องครับ/ Aj, Perry

      ลบ
  15. ประโยคที่ผิด : Don't worry for it.
    แก้ให้ถูกต้อง : Don't worry about it.
    เพราะ ต้องเปลื่ยน for เป็น about เนื่องจาก about กับ it มีความสัมพันธ์กันต้องใช้คู่กัน

    นางสาวอมรรัตน์ คงพันธ์ รหัส 5640410779

    นางสาวสุชานันท์ จันทรมิตร รหัส 5640410820
    Section 16

    ตอบลบ
  16. ประโยคที่ผิด I'm boring with the life.
    แก้ให้ถูกต้อง I'm bored to live the life.
    เพราะ ใช้ boring ไม่ได้ ในที่นี้ต้องใช้ bored

    นางสาววิภาวี รัตนกุล รหัส 5640410816
    นางสาวอินธุอร สินเธาว์ รหัส 5640410824
    Section 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกต้องครับ

      แต่ถ้าจะให้ไม่ซับซ้อน
      ถ้าเบื่อให้ใช้ verb to be + bored + with ครับ / Aj, Perry

      ลบ
  17. ประโยคที่ผิด We not attended the class last Monday
    แก้ให้ถูกต้องคือ We did not attend the class last Monday
    คำอธิบาย: เพราะ past ปฏิเสธ ใช้ did not ตามด้วย v.แท้ช่อง 1 ไม่ต้องเติม ed

    นางสาวศศิธร รักทอง รหัส 5640410767
    นางสาวอรทัย รักขะพันธ์ รหัส 5640410781

    ตอบลบ
  18. ประโยคที่ผิด There are many branches in my faculty.
    ประโยคที่ถูก There are many major in my faculty.
    เพราะว่า การใช้ branch ในประโยคนี้ไม่เหมาะสม คำว่า branch จะใช้กับ ร้านค้า โรงเรียน ที่มีหลายสาขา แต่ในมหาวิทยลัยควรใช้ major จะเหมาะสมกว่า และในประโยคมี คำว่า many แล้ว ไม่ต้องเติม s หรือ es เพราะคำว่า many เป็นคำบอกจำนวนอยู่แล้ว
    นางสาวอมรรัตน์ รัตนโชติ รหัส 5640410780
    นางสาวอรอนงค์ เสมาชัย รหัส 5640410780
    Section 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกเกือบหมดแล้วครับ แต่ที่บอกว่า
      "และในประโยคมี คำว่า many แล้ว ไม่ต้องเติม s หรือ es เพราะคำว่า many เป็นคำบอกจำนวนอยู่แล้ว"

      อันนี้ไม่น่าจะใช่ครับ แก้ประโยคอีกนิดนึงครับ แล้วอธิบายข้อความที่ครูบอกว่าไม่ใช่ใหม่ด้วยนะครับ/ Aj Perry

      ลบ
    2. ประโยคที่ผิด There are many branches in my faculty.
      ประโยคที่ถูก There are many majors in my faculty.
      เพราะว่า การใช้ branch ในประโยคนี้ไม่เหมาะสม คำว่า branch จะใช้กับ ร้านค้า โรงเรียน ที่มีหลายสาขา แต่ในมหาวิทยลัยควรใช้ major จะเหมาะสมกว่า
      การใช้งาน many
      จะต้องเติม s หลังคำนานเสมอ
      many + นามนับได้ในรูปพหูพจน์
      เช่น Many pens are long.
      ข้อสังเกตคือ many จะช่วยขยายและบอกย้ำว่ามันมีจำนวนมาก

      ลบ
    3. ถูกต้องครับ/ Aj, Perry

      ลบ
  19. ประโยคที่ไม่ถูกต้อง: Not touch the wire. It very dangerous.
    ประโยคที่ได้แก้ไขแล้ว:Do not touch the wire. It is very dangerous.
    คำอธิบาย:เราไม่สามารถวาง not ไว้โดดๆหน้ากริยาแท้ที่เราต้องการปฏิเสธได้ เนื่องจาก touch เป็นกริยาแท้ จึงต้องหากริยาช่วยมาเติมหน้า not นั่นคือ do
    ส่วนที่ 2 เติม is เข้าไปเพราะ is เป็นกริยาช่วย ทำให้ประโยคมีความสมบูรณ์และ
    เพื่อให้แปลได้ว่า "ลวดหรือสายไฟอันนี้ มันอันตรายมากเลยนะ" คือบอกให้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร อ๋อ มันอันตรายนั่นเอง

    นายภูมินทร์ รัตนสุภา 5640410752 section 16
    นายบุรทัช ฟองลมุล 5640410736 section 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริง ๆ ยังไม่พอใจกับคำอธิบายครับ ถือว่ายังอธิบายไม่ตรงประเด็น
      อธิบายใหม่นะครับ

      ลบ
    2. ขอแก้ไขใหม่นะครับ ส่วนที่สอง เนื่องจากไม่มี verb อยู่เลย จึงต้อง ใช้ is ซึ่งเป็น verb to be มาทำหน้าที่ในการสื่อความหมายว่า เป็น อยู่ คือ และ dangerous เป็น adjective ดังนั้น เพื่อบอกว่า อันตรายมาก

      ลบ
    3. คือหลัก ๆ เราจะบอกว่าอันตรายมาก ใช่มั้ยครับ
      แต่คนไทยชอบลืม is ครับ
      จะพูดแค่ It very dangerous.
      ที่นี้ dangerous เป็น adjective ครับ
      จึงต้องเขียน ประธาน + is/am/are + adjective
      ส่วน very ขยาย adjective นั้นถูกแล้วครับ เช่น very bad / very nice
      ประโยคนี้ขาด verb to be ครับ
      / Aj, Perry

      ลบ
  20. ประโยคที่ผิด We maked the cake in an oven.
    แก้ให้ถูกต้อง We maked the cake in the oven.
    อธิบายว่า เพราะ in an oven ไม่เหมาะสมกับรูปประโยค ทางที่ดีจะให้ประโยคนี้สละสลวย ควรใช้ in the oven จึงจะเหมาะสมกว่าค่ะ
    นางสาวพรพรรณ บุบผัน รหัส 5640410742 Sec.16
    นางสาวลลิตา พยัคพันธ์ รหัส 5640410759 Sec.16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยังไม่ใช่คร้าบ
      an กับ the ต่างกันยังไงครับ ประโยคนี้ถ้าใช้ an ก็หมายความว่า ฉันทำเค้กในเตาอบ ส่วนถ้าใช้ the ก้หมายความว่า ฉันทำเค้กในเตาอบนั้น (ใช้ชี้เฉพาะ)
      ดังนั้นประโยคนี้ส่วนที่ผิดไม่ใช่ in an oven ครับ ดูใหม่นะ / Aj Perry

      ลบ
    2. ประโยคที่ผิด We maked the cake in an oven.
      แก้ให้ถูกต้อง We make a cake on the oven.
      maked เปลี่ยนเป็น make เพราะ ประโยคนี้ควรอยู่ในรูป present simple tense หากเป็น past ควรมีคำแสดงเวลาให้เห็นว่า ประโยคนี้เป็น past เช่น yesterday last night last week
      the cake เปลี่ยนเป็น a cake เพราะ a ใช้นำหน้านามและทำให้นามตัวนั้นมีความหมายทั่วไปไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เราใช้ a นำหน้านามที่เป็นเอกพจน์ นับได้ ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และนามนั้นต้องมีความหมายทั่วไป
      in an oven เปลียนเป็น on the oven เพราะ เรา ใช้ on ดีกว่า เพราะ In มันควรจะใช้กับสถานที่
      เมื่อเราใช้ on แล้วต่อด้วย the เพื่อเจาะจง

      ลบ
    3. จริง ๆ ใช้ in ถูกแล้วครับ ประโยคนี้สังเกตรูปกริยาช่อง 2 ของ make สิครับ
      เขียน m-a-k-e-d ถูกมั้ยครับ
      สิ่งที่อยากให้สังเกตคือเรื่องกริยาช่อง 2 ครับ

      ประโยคที่ถูกคือ We made a cake in an oven. ครับ
      / Aj. Perry

      ลบ
  21. ประโยคที่ผิด : She must to talk to her messenger.
    ประโยคที่ถูกต้อง : She has to talk to her messenger.
    ความหมาย : She has to talk to her messenger.แปลว่า เธอต้องคุยกับผู้ส่งข่าวของเธอ
    คำอธิบาย : must ใช้เมื่อ สิ่งที่คิดว่าเป็นจริง เป็นเหตุเป็นผล หรือแสดงถึงความเห็นที่ผู้พูดเห็นด้วย
    has to ใช้เมื่อ เป็นเอกพจน์ แปลว่า จำเป็น จำเป็นต้อง (เป็นเหตุที่เลือกไม่ได้หรือไม่เต็มใจ แต่จำเป็นต้องทำสิ่งนั้นๆ) ด้วยความจำเป็น จำใจทำ หรือแสดงถึงเวลาจะต้องทำกิจกรรมอื่นที่สำคัญกว่า
    ประโยคนี้จึงใช้กับ has to
    นางสาวณิชาพร ภูริสมิต รหัส 5640410805 Section.16
    นายรัฐนันท์ วัชรานาถ รหัส 5640410815 Section.16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริง ๆ ใช้ She must talk to her manager. หรือ She has to talk to her manager.
      เป็นประโยคที่ถูกต้อง ซึ่งที่ตอบมาก็ถุก แต่คำอธิบายยังไม่ใช่ครับ หาข้อมูลอีกนิดสิ จะได้ความรู้ สิ่งที่อธิบายมามันผิดอะครับ/ Aj Perry

      ลบ
    2. ประโยคที่ผิด : She must to talk to her manager.
      ประโยคที่ถูกต้อง : She must talk to her manager. หรือ She has to talk to her manager.
      ความหมาย : She must talk to her manager. แปลว่า เธอต้องคุยกับผู้จัดการของเธอ
      คำอธิบาย : ประโยคนี้ใช้ have to ไม่ได้ ต้องใช้ has to เพราะประโยคนี้เป็นเอกพจน์
      has to มีค่าเท่ากับ must (จำเป็นต้อง) เป็นกริยาช่วย (auxiliary verb) ใช้แสดงถึงพันธะหน้าที่ภารกิจจำเป็นที่ต้องกระทำ ซึ่งหลัง has to ต้องใช้กริยาช่อง 1 ดังนั้น must จึงตามด้วย to ไม่ได้ แต่ต้องตามด้วย V1 แทน

      นางสาวณิชาพร ภูริสมิต รหัส 5640410805 Section.16
      นายรัฐนันท์ วัชรานาถ รหัส 5640410815 Section.16

      ลบ
  22. ขอแก้ไขใหม่น่ะค่ะ
    ประโยคที่ผิด; I am very tried, I need to rest.
    ประโยคที่ถูกต้อง; I was very tried, I would like to rest.
    ความหมาย; I was very tried, I would like to rest. แปลว่า ฉันรู้สึกเหนื่อยมากๆ,ฉันอยากจะพักผ่อน
    อธิบาย;ประธานคือ I ซึ่งในประโยคนี้จะต้องใช้ verb ช่องที่ 2 คือ was ซึ่งเป็น Tense เดียวที่ใช้กริยาร่วมกับประธานเอกพจน์ นอกนั้นใช้กับประธานพหูพจน์ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนเป็น was เพื่อให้สอดคล้องกับกริยาช่องที่ 2 ของ tried
    ถัดมาเปลี่ยนจากคำว่า need เป็น would like เพราะ need แปลว่า ต้องการก็จริงแต่เป็นความต้องการที่เรียกว่า จำเป็นอย่างยิ่งหรือขาดไม่ได้ ส่วนการจะใช้คำว่า want ซึ่งแปลว่า
    ต้องการเหมือนกันแต่เป็นความต้องการแบบทั่วๆไปไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย แต่เราสามารถเลือกใช้คำที่มีความสุภาพมากยิ่งขึ้นได้โดยใช้ คำว่า would like ซึ่งแปลว่า อยากจะ ถึงแม้ความหมายจะคล้ายกันแต่เราต้องการพูดให้ดูสุภาพมากยิ่งขึ้น
    โดย นางสาวภัทราภรณ์ ปานดำ 5640410750 Section 16
    นางสาววราลักษณ์ เสียดหนองยุง 5640410764 Section 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริง ๆ ประโยค I need to rest ถูกแล้วครับ
      เหนิ่อยไงครับ จึงจำเป้นต้องพัก อาจจะใช้ would like ตามที่อธิบายมาเพื่อบอกว่า อยากจะพัก แต่ประโยคที่ผิดคือประโยคที่ 1 ครับ
      I was very tried. คำว่า tried ไม่ได้สะกดแบบนั้นนะครับ ซึ่งหลายคนชอบสะกดแบบนั้น จะต้องสะกดว่า t-i-r-e-d ครับ / รวม ๆ แล้วก้ถือว่าพยายามมาพอสมควร
      / Aj Perry

      ลบ
  23. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  24. This picture taken was from a farmland.


    This picture took was from a farmland.


    เพราะ taken เป็นกริยาช่อง 3 และตามด้วย was (was were ช่อง2ของVerb to be)
    แต่ประโยคนี้คือ Past tense รูปแบบของ past tense คือ
    Subject +V. 2 ดังนั้น ต้องเปลี่ยน taken เป็น took
    was ใช้กับ เอกพจน์
    were ใช้กับพหูพจน์

    นางสาว อารียา ยาเหล รหัส 5640410788 Sec 16

    นางสาวปาจรีย์ เพชรแดง รหัส 5640410741 Sec 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยังไม่ใช่ครับ ประโยคนี้เป็นเรื่อง past tense ใช่ครับ
      แต่เป็นเรื่องประโยคถุกกระทำหรือ passive voice ด้วยครับ
      แก้ด้วยครับ อธิบายใหม่นะ / Aj. Perry

      ลบ
    2. ประโยคที่ไม่ถูกต้อง : This picture taken was from a farmland.

      ประโยคที่ถูกต้อง : This picture taken was by from farmland

      Passive Voice (Past simple) รูปแบบคือ S + was, were + verb 3 + by…

      ดังนั่น taken เป็นช่อง3อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ให้ เติมคำว่า by ไป หลัง Verb 3 นั้นคือ หลัง taken ค่ะ

      ขอบคุณค่ะ >_<

      ลบ
  25. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  26. ประโยคที่ผิด We like to see the monkeys and feeding the fishes.
    แก้ให้ถูกต้องคือ We like to see the monkeys and feed the fish.
    คำอธิยาย: See และ feed เปน v.inf เพราะ v. ที่ตามหลัง to ต้องเป็น v.inf
    Fish เปนรูปเอกพจน์เสมอ เช่น A fish , Two fish
    ประโยคที่ให้มาผิดเนื่องจากใช้ feeding และ fishes

    by นางสาว ชมพูนุช วารวงศ์ 5640410721
    นางสาว นันทินี อ่อนไชสง 5640410731

    ตอบลบ
  27. ประโยคที่ผิด We did merit and sacrificed coffin
    ประโยคที่ถูก We do merit and sacrifice coffin
    คำอธิบาย เปลี่ยนเป็น Present Simple Tense เพราะว่า มันเป็นประโยคทั่วไปที่พูดถึงความเป็นจริง ไม่ได้บอกเวลาและควรเปลี่ยนsacrificedเป็นsacrifice
    By นายธนิน แซ่ลิ้ม 5640410727
    นายรัชรงค์ วิมลทรง 5640410758

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประโยคนี้เป็นเรื่องของคำที่ใช้
      ประโยคที่แก้มายังไม่ถูกต้องนะ สุดท้ายแล้วจะแปลว่า พวกเราทำบุญและบริจาคโลงศพครับ ลองใหม่ คิดใหม่นะครับ

      ลบ
    2. แก้ใหม่นะคับ
      ประโยคที่ผิด: We did merit and sacrificed coffin.
      ประโยคที่ถูก: We did merit and donated coffin.
      คำอธิบาย: จากที่อาจารย์บอกว่าเป็นเรื่องของคำที่ใช้พวกผมจึงคิดว่า คำว่า sacrifice มันแปลว่าเสียสละหรืออะไรทำนองนั้นมากกว่าถ้าจะให้แปลว่า บริจาคก็ต้องใช้คำว่า donate ดูจะเหมาะสมที่สุดแล้วคับ
      By นายธนิน แซ่ลิ้ม 5640410727
      นายรัชรงค์ วิมลทรง 5640410758

      ลบ
    3. สำหรับ donated ถูกต้องครับ
      ส่วน did merit ยังไม่ถูกนะ
      ลองดูคำอธิบายของ Andrew Biggs ด้านล่างนะว่า
      merit ใช้กับ verb อะไร
      / Aj, Perry

      http://www.andrewbiggs.com/columns/column-398.htm

      ลบ
    4. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
    5. แก้ใหม่นะคับ
      ประโยคที่ผิด: We did merit and sacrificed coffin.
      ประโยคที่ถูก: We made merit and donated coffin.
      คำอธิบาย: สำหรับคำว่า merit ควรจะใช้กริยา make ดีกว่าคำว่า do, สำหรับคำว่า sacrifice coffin นั้น แปลรวมๆดูแล้วมันไม่ตรงตามความหมาย จึงต้องใช้คำว่า donate แทนคำว่า sacrifice ดูจะเหมาะสมกว่า และเนื่องจากรูปประโยคเป็น Past Tense จึงต้องเปลี่ยนกริยาทั้ง make และ donate เป็นช่องสอง
      By นายธนิน แซ่ลิ้ม 5640410727
      นายรัชรงค์ วิมลทรง 5640410758

      ลบ
  28. ประโยคที่ผิด : The car key stolen last night
    ประโยคที่แก้ไข : The car key was stolen last night
    คำอธิบาย : เนื่องจากประโยคนี้ยังไม่สมบูรณ์ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเรื่องราวในอดีตซึ่งเป็น past tense was/were เป็น verb to be หลัก ๆ ใช้กับประโยคที่เป็นอดีตสำหรับประโยคนี้จะใช้ was เพราะประธานเป็นเอกพจน์
    นางสาวจิรวดี ใจเย็น 5640410799 sec 16
    นางสาวเนตรนภา พลล่องช้าง 5640410808 sec 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประโยคที่แก้มา ถูกต้องแล้วครับ คำอธิบายเรื่อง past tense ถูกแล้ว
      แล้วคำว่า stolen แปลว่าอะไรครับ ทำไม The car key + was + stolen
      แล้วประโยคแบบนี้มันเรียกว่าอะไร

      อะ ลองใหม่ครับ / Aj Perry

      ลบ
    2. stolen แปลว่า ที่ถูกขโมย,ถูกขโมยแล้ว
      ประโยคนี้ต้องเป็น The car key was stole last night
      ประโยคนี้เรียกว่า Past simple tense คะ

      ลบ
  29. ประโยคที่ผิด We was proudly to be here.
    แก้ให้ถูกต้องคือ We are proudly to be here.
    คำอธิบาย: ให้เปลี่ยน was เป็น are เพราะ to be here แสดงถึงความเป็นปัจจุบัน แล้ว We are จากproudly ที่เป็นadv. เมื่อมาอยู่หลัง areที่้ป็นverbแท้ ก็เปลี่ยนเป็นproud ประโยคนี้แสดงความเป็นปัจจุบัน
    โดย นางสาว ชมกนก จันทเอียด รหัส 5640410720
    นางสาว ณัชชา อ่วมเจริญ รหัส 5640410725

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ครับ เรื่อง was นั้น จริง ๆ was ไม่ใช้กับ we อยู่แล้วครับ ส่วน proudly ยังไม่ถุกนะครับ
      ลองอีกทีสิครับ/ Aj Perry

      ลบ
  30. ประโยคที่ผิด The event was organize by branch LCB.
    แก้ให้ถูกต้อง คือ The event was organized by branch LCB.
    คำอธิบาย was organize ผิดรูปแบบ tents จึงต้องเติม d ไป เพื่อให้ประโยคได้สมบูรณ์


    #นางสาวลลิตา มีสุข 5640410760
    #นางสาววราภรณ์ ศรีนาค 5640410763
    #Sec.16 :)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยังผิดที่คำว่า branch ด้วยครับ
      ประโยคที่ถูกต้องคือ The event was organized by LCB program.
      Program = 1 หลักสูตรครับ
      ส่วนการเติน d ในคำว่า organize นั้น เพราะรูปประโยคนี้เป็นรูปถูกกระทำครับ
      Passive Voice คือ
      ประธาน + Verb to be + V 3
      ซึ่งถ้าเกิดในอดีต
      The event (เอกพจน์) + was + organized

      / Aj Perry

      ลบ
  31. ประโยคที่ผิด : I take this photo last April.
    ประโยคที่ถูกต้อง : I took this photo last April.
    คำอธิบาย : เนื่องจากในประโยคมี time marker แสดงให้เห็นว่าเป็นประโยค past tense ซึ้งต้องใช้กริยาช่องที่ 2 แต่ในประโยคใช้ take ซึ้งเป็นกริยา infinitive จึงต้องเปลี่ยนเป็น took

    #นายคณัฐษณัณท์ สุวรรณชม 5640410708
    #นางสาวปรียานุช ปานสงค์ 5640410811

    ตอบลบ
  32. ประโยคที่ผิด : We go buy vegetables yesterday.
    ประโยคที่ถูกต้อง : We went bought vegetable yesterday.
    คำอธิบาย : เนื่องจากในประโยคมี time marker แสดงให้เห็นว่าเป็นประโยค past tense ซึ้งต้องใช้กริยาช่องที่ 2 แต่ในประโยคใช้ buy ซึ้งเป็นกริยา infinitive จึงต้องเปลี่ยนเป็น bought
    #นางสาวกวินา วรรณโชติ 5640410793
    #นางสาวเสาวลักษณ์ บุรินทร์กุล 5640410777

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ที่บอกว่า เปลี่ยน buy เป็น bought นิ ไม่ใช่ครับ
      ไกด์ให้นะครับ
      go to (ไปยัง) + สถานที่
      go to (เพื่อที่จะ) + V1 ครับ

      ลองใหม่สิครับ ขอตัวอย่างประโยคเพิ่มด้วย

      / Aj. Perry

      / Aj. Perry

      ลบ
  33. ประโยคที่ผิด : I went to on a trip with my family.
    ประโยคที่ถูกต้อง : I go to on a trip with my family.
    คำอธิบาย : เนื่องจากในประโยคไม่มี time marker แสดวงความเป็นอดีต นั่นหมายถึงประโยคนี้เป็นปัจจุบัน จึงไม่ควรใช้ went และต้องเปลี่ยนเป็น go

    #นางสาวสุภาภรณ์ บุตรเจียก 5640410775
    #นางสาวชลิตา เทพดำ 5640410722

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. on a trip on
      จะอยู่ด้วยกันกับ a trip อยู่แล้วครับ แปลว่า เที่ยว
      เหมือนคำว่า on a vacation / on a tour / on a journey

      สำนวนเหล่านี้ ใช้กับการเดินทาง

      ที่ผิดไม่ใช่คำว่า went นะครับ

      แก้ใหม่ครับ
      / Aj. Perry

      ลบ
  34. ประโยคที่ผิด : I went to at the Thungsong.
    ประโยคที่ถูกต้อง : I go to at the Thungsong.
    คำอธิบาย :เนื่องจากในประโยคไม่มี time marker แสดวงความเป็นอดีต นั่นหมายถึงประโยคนี้เป็นปัจจุบัน จึงไม่ควรใช้ went และต้องเปลี่ยนเป็น go

    #นางสาวรมย์นลิน ทรงสง่า 5640410756
    #นางสาววรางคณา จิตมาเส 5640410762

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยังไม่ใช่ครับ
      go + to (ไปยัง) + สถานที่
      สถานที่ที่เป็นชื่อเมืองหรือประเทศ ไม่ต้องใส่ the ครับ
      แก้ใหม่ครับ
      / Aj. Perry

      ลบ
  35. ประโยคที่ผิด : I seen tourist swimming.
    ประโยคที่ถูกต้อง : I see tourist swimming.
    คำอธิบาย :เนื่องจากในประโยคแสดงให้เห็นว่าเป็นปัจจุบัน ไม่ควรใช้กริยาช่องที่ 3 จึงต้องใช้กริยา infinitive แสดงความเป็นปัจจุบัน

    #นางสาวอลิษา เชื้อพุทธ 5640410785

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริง ๆ แล้วเป็นรูปอดีตก็ได้ครับ
      อย่ามุ่งประเด็นว่า ถ้าไม่มีคำบอกเวลา เป็นอดีตแล้วต้องเป็น present tense เสมอไปนะครับ

      ประโยคนี้ ให้ถูกต้องจริง ๆ คือ
      1) I saw a tourist swim. หรือ
      2) I saw a tourist swimming. ครับ

      ถ้าประธาน เห็น ได้ยิน ใครทำอะไร
      ถ้าตอนที่ เห็น หรือ ได้ยิน เค้าทำเสร็จแล้วให้ใช้แบบที่ 1)
      แต่ถ้าตอนเห็นหรือได้ยินเค้ายังทำอยู่ ก็ให้ใช้แบบที่ 2)

      Aj. Perry

      ลบ
  36. ประโยคที่ผิด It's was a great memories summer.
    ประโยคที่ถูก It's was a great memories in summer.
    or It's was a great memories on summer.
    คำอธิบาย ประโยคขาดความสมบูรณ์เนื่องจากขาด"in"หรือ "on" หน้าคำว่าSummer

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. # นาย บริวัตร จันทสร 5640410735
      # นส. กมลเนตร สันติวิทยารมย์ 5640410702

      ลบ
    2. โดนของยาก เข้าแล้ว
      ประโยคนี้ ยังไง on Summer ไม่ได้ครับ
      ฤดูต่าง ๆ เราใช้บุพบท in ครับ
      ยังไงก็ยังผิดอยู่ 2 ที่ คิดดี ๆ นะ
      ที่แรกคือ It's was
      ที่ ๆ 2 คือ a great memories

      แก้ใหม่นะ/ Aj. Perry

      ลบ
  37. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  38. ประโยคที่ผิด There are enjoy to shopping last Friday.
    แก้ให้ถูกต้องคือ There are enjoyed to shopping last Friday.
    คำอธิบาย: เพราะรูปประโยคมีความใกล้เคียงกับโครงสร้างประโยค Past simple tense คือ S. + V.2 หรือ V. เติม ed และมีคำที่แสดงความเป็นอดีตในประโยค คือ last Friday ดังนั้นกริยาของประโยคนี้จึงต้องเปลี่ยนจาก enjoy เป็น enjoyed

    นางสาวพรรษพร สุวรรณบัณฑิตย์ รหัส 5640410744
    นางสาวหรรษา กิ่งแก้ว รหัส 5640410822

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ได้ประโยคไปผิดมั้งครับ
      ให้ประโยคใหม่นะครับ
      They are enjoy to shopping last Friday.
      คิดดี ๆ ครับ enjoy ใช้ยังไง

      Aj Perry

      ลบ
  39. 1.ประโยคที่ผิด :: The beach must white.
    2.ประโยคที่แก้ไข :: Beach must white.
    3.คำอธิบาย :: ตัด the ออก เพราะชายหาดนั้นมีหลายหาด ไม่สามารถเจาะจงได้ ซึ่ง the เป็น article ที่ชี้เฉพาะ จึงไม่สามารถใช้ได้ นอกเสียจากจะใช้ this หรือ บอกชื่อชายหาดนั้น จะเป็นการเจาะจงมากกว่า

    นายจักรพล ปานเมือง 5640410710
    นายเจษฎา สวาทนันท์ 5640410717

    ตอบลบ
  40. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  41. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  42. ประโยคที่ผิด:: The cars wasn't on the garage
    แก้ให้ถูกคือ:: The cars weren't on the garage
    คำอธิบาย:: ประโยคนี้มีประธานเป็นพหูพจน์ คือ The cars แต่ V.was นั้นให้กับประธานที่เป็นเอกพจน์ จึงใช้ was ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็น were แทน

    น.ส กมลรัตน์ แซ่หลี 5640410703
    น.ส บุษยมาศ ชูกล่ำ 5640410737

    ตอบลบ
  43. ประโยคที่ผิด : Two fishes was swimming in the sea.
    ประโยคที่ถูก : Two fishes are swimming in the sea.
    คำอธิบาย : ที่ต้องใช้ are เพราะประธานเป็นพหูพจน์ แล้วสิ่งนี้กำลังกระทำอยู่ คือปลากำลังว่ายน้ำอยู่ จึงใช้ was ไม่ได้
    นางสาวนัจวา แหลมกา 5640410730 sec 17

    ตอบลบ
  44. ประโยคที่ผิดคือ Does your parents lived here?
    ประโยคที่ถูกคือ Did your parents live here?
    เนื่องจาก doesเป็นปัจจุบัน จึงต้องเปลี่ยนเป็นdid,you parents ต้องเปลี่ยนเป็น your parents เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ,livedเปลี่ยนเป็นlive เพราะในประโยคมีdidมาช่วย

    นางสาวปลื้มกมล เจริญลาภสุขยิ่ง 5640410739
    นางสาววิไลพร พรหมเพศ 5640410766
    Sec 17

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกต้องแล้วครับ และ your parents ไม่ต้องเปลี่ยนไรนะจ๊ะ/ Aj. Perry

      ลบ
  45. ประโยคที่ผิดคือ I want you meet me at the lobby.
    ประโยคที่ถูกคือ I want you to meet me at the lobby.
    เนื่องจากคำว่า meet เป็น infinitive จำเป็นจะต้อง มี to นำหน้า เพราะ to จะต้องตามด้วย verb infinitive ประโยคจึงจะสมบูรณ์

    นางสาวจันทมาศ จาบจง 5640410796 sec 16

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ประโยคที่แก้มาถูกต้องแล้วครับ แต่คำอธิบายไม่ถูกครับ จริง ๆ แล้วกริยา want ถ้าเราจะบอกว่า ต้องการให้ใครทำอะไร จะต้องใช้ want + คน + to + กริยาที่จะให้ทำ ครับ เช่น We want him to eat breakfast. / Aj. Perry

      ลบ