วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ภาษาอังกฤษผ่านเพลง Billionaire โดย Travie McCoy และ Bruno Mars

Billionaire เป็นเพลงที่มีเนี้อหาที่มองได้หลายด้านนะครับ สะท้อนค่านิยมของคนเมริกันในยุคปัจจุบัน ถ้าเป็นบ้านเรา ก็คงมีเยอะครับ อยากรวย คุณต้องทำเอาเอง แตถ้าอยากฟังเพลง บล๊อกนี้มีให้ฟังอยู่เสมอครับ

เอาล่ะ ฟังเพลงสักรอบ แล้วค่อยมาเรียนรู้ความหมายกัน



เพลงนี้ร้องโดย Travis McCoy
วง Gym Class Heroes
ฟีเจอร์กับ Bruno Mars

I wanna be a billionaire so fีucking bad
ฉันอยากจะเป็นเศรษฐีแทบขาดใจ
Buy all of the things I never had
จะซื้อทุกอย่างที่ไม่เคยมี
Uh, I wanna be on the cover of Forbes magazine
ฉันอยากจะขึ้นปกนิตยสาร Forbes
Smiling next to Oprah and the Queen
ยืนยิ้มข้างๆ โอปราห์และควีน


[Chorus] Oh every time I close my eyes
โอ คราใดที่หลับตา
I see my name in shining lights
ฉันเห็นชื่อของฉันสว่างไสว
A different city every night oh
จะนอน(แม่ง) คืนละเมืองไป
I swear the world better prepare
ให้ตายเถอะ ให้ตาย โลกจะต้องเตรียมรอ
For when I’m a billionaire
ฉันแค่ขอ ให้ได้เป็นเศรษฐีจริง ๆ


[Travis "Travie" McCoy]
Yeah I would have a show like Oprah
เย้ จะทำโชว์เหมือนโอปราห์
I would be the host of, everyday Christmas
ชั้นจะจัดงานคริสต์มาสทุก ๆ ปี
Give Travie a wish list
จะเอากระดาษรายชื่อสิ่งที่ปรารถนาให้ เทรวี่
I’d probably pull an Angelina and Brad Pitt  
ชั้นคงจะดึง Angelina กับ Brad Pitt มาร่วมด้วย
And adopt a bunch of babies that ain’t never had sh-t
และรับเลี้ยงเด็กยากไร้เหมือนพวกเขา
Give away a few Mercedes like here lady have this
แจกรถเบ๊นซ์ เอาแบบที่ผู้หญิงที่นี่ขับไปเลย
And last but not least grant somebody their last wish
และสุดท้ายจะทำให้ฝันสุดท้ายของใครบางคนเป็นจริง
Its been a couple months since I’ve single so
เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ที่อยู่โดดเดี่ยว
You can call me Travie Claus minus the Ho Ho
ฉันชือ แทรวี่ คลอส แต่ไม่เอา โฮ โฮ
(ซานตาคลอส มักจะพูดว่า โฮโฮ)
Get it, hehe, I’d probably visit where Katrina hit  
ฉันเข้าใจ  ฉันจะไปเยี่ยมพื้นที่ที่พายุแคทริน่าถล่ม
And damn sure do a lot more than FEMA did  
และแน่นอนโคตร ๆ เลย ว่าฉันทำได้มากกว่าองค์กรเพื่อการบริหาร
(Federal Emergency Management Agency: an independent agency of the United States government that provides a single point of accountability for all federal emergency preparedness and mitigation and response activities)


จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งรัฐบาลกลางทำ
Yeah can’t forget about me stupid
เธอจะไม่ลืมวีรกรรมของฉัน
Everywhere I go Imma have my own theme music
ทุกที่ที่ฉันไป จะให้เค้าเปิดเพลงยกย่องฉัน
Imma = I'm going to




Travie Mccoy และ Bruno Mars
เพลงยังมีต่อนะ


[Travis "Travie" McCoy]
I’ll be playing basketball with the President    
ฉันจะเล่นบาสเก็ตบอลกับประธานาธิบดี
Dunking on his delegates    
ยัดลูกบาสใส่ผู้ติดตาม
Then I’ll compliment him on his political etiquette  
แล้วฉันก็จะชมเรื่องมารยาททางการเมืองของเขา
Toss a couple milli in the air just for the heck of it  
โยนเงินสัก2-3 ล้านไปบนอากาศ ให้มันสะใจกันไป
But keep the fives, twentys ... completely separate  
แยกแบ๊งค์ห้าดอลล์ และยี่สิบดอลล์ เก็บไว้
And yeah I’ll be in a whole new tax bracket      
และฉันก็จะยอมจ่ายภาษีแบบคนรวย
We in recession but let me take a crack at it    
ประเทศเราอยู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ  แต่ปล่อยให้ฉันจัดการเอง
I’ll probably take whatevers left and just split it up  
ฉันจะดูแลสิ่งที่เหลือและจะทำให้งอกเงยขึ้น


So everybody that I love can have a couple bucks  
และทุกคนที่ฉันรักก็จะได้กันไปหลาย ๆ ถัง
And not a single tummy around me would know what hungry was  
รอบ ๆ ตัวฉัน จะลืมความหิวโหยไปเลย
Eating good sleeping soundly    
กินอิ่ม นอนหลับ
I know we all have a similar dream    
ฉันรู้ว่าเราทุกคนมีฝันที่เหมือนกัน
Go in your pocket pull out your wallet    
ล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา
And put it in the air and sing    
และโยนให้ลอยในอากาศแล้วร้องเพลงดัง ๆ


มีอีกเพลงนึงของ Bruno Mars ที่โด่งดังมาก คือ Just The Way You Are ลองฟังดูนะครับ จะทำเนื้อเพลงและคำแปลมาให้อีก ขอบคุณที่ติดตามนะครับ




กลับไปหน้าหลักเพื่อดูเพลงอื่น ๆ  
คลิกที่ป้าย English Songs ด้่านล่างสิครับ


วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

Infinitive และแล้วก็มี Episode 2 จนได้

ใน Episode ที่ 2 นี้ เราจะฝึกใช้ Infinitive ให้เฟิร์มกว่าเดิมอีกสักหน่อย ดีมั้ย ขนาดครูยังมึนสิบตลบ เอาเป็นว่าครูอำนวยความรู้ให้ละกันนะครับ เพราะหลายตำรา ครูงง เลยสรุปพอถางทางให้ไปได้สะดวก นิดนึง 


สืบเนื่องจาก Episode 1 ก็อยากให้คุณ ๆ คุ้นกับการใช้งานก่อน


สำหรับคำกริยาในแบบฝึกนั้น บางตัวเป็นลูกผสมนะครับ คือตามด้วย gerund ได้ แต่ให้จำประเภทที่ตามด้วย gerund เท่านั้น กับ infinitive เท่านั้น ดีที่สุด ส่วนตัวอื่นต้องฝึกใช้ แล้วจะจำได้ครับ อย่าสนใจลูกผสม นั่นเอง


แบบฝึกหัดแรก ฝึกเติมคำที่ถูกต้องในประโยคที่มี infinitive จะได้ชินตาว่ากริยาและคำไหนมักจะมี to ตามบ้าง นำตัวเลือก a-d ไปเติมในประโยคให้ถูกต้อง



a. to buy                        b. not to look at
c. not to talk                  d. to use  


1. Kowit pretended  ............. me when he passed me at the Sunday market. 
2. They refused .................. cash to pay the bills.
3. Benjee is in a bad mood. Mom tell us ............... with her yet.
4. You will never forget  ........... apple tarts. It's very delicious.


เอาคำกริยาที่ตามด้วย infinitive พร้อมคำแปลและตัวอย่างประโยค ไปเพิ่มหน่ิอยนะครับ สีแดงคือ ลูกผสมนะครับ คือตามด้วย infinitive หรือ gerund ก็ได้

agree       เห็นด้วย  Wendy agreed to park outside the hotel building.
appear     ปรากฏ   The group appeared to like the conference.
arrange    จัดแจง   Nim arranged to stay with her in Miami.
ask          ถาม      Danai asked to turn off the fan.
begin       เริ่ม       It began to rain.
can't bear ทนไม่ได้ Harris can't bear to read the whole page.
can't stand ทนไม่ได้ Sunny can't stand to have Bs in the transcript.
care         แคร์    We don't care to walk out of the room.
cease       หยุด    The boy cease to start his homework.
choose      เลือก   I chose to eat pizza.
claim        อ้าง   She claimed to be the mother of that boy.
continue   ทำต่อ   Patty continued to sing.
decide      ตัดสินใจ Rick decided to take a taxi.
demand    ขอ       He demanded to look at the product samples first.
deserve    สมควร   We deserve to receive the reward.
dread       กลัว     I dread to walk to the toilet alone.
expect     หวัง      We expect to see you at the meeting.
fail          ล้มเหลว He failed to make pies.
forget      ลืม       Don't forget to lock the door when you leave.
get          ได้(ทำ)  Sophie gets to sit in this class! Why can't I?
happen     เกิด(ปรากฏขึ้นมา) She happened to sing very well.
hate        เกลียด    ฺBobby hates to wash the car.
hesitate   ลังเล     Don't hesitate to contact us?
hope        หวัง      I hope to finish the study this year.
intend      ตั้งใจ     Eric intends to visit you next month.
learn        เรียนรู้    I'm learning to quilt.
like          ชอบ     Gaga likes to sing in the bathroom.
love         รัก        She loves to snorkel.
manage    จัดการ   He managed to pick up his wife in a heavy rain.
need        จำเป็นต้อง I need to see the doctor.
neglect     ลืม/ละเลย  She neglected to tell me that the customer called.
offer         เสนอ      Eddy offered to make a cup of coffee.
plan         วางแผน    The tenant plan to rent the new house.
prefer       ชอบ(กว่า) The Browns prefer to murder the toad.
prepare     เตรียม     They prepared to move to a new flat.
pretend     ทำเหมือนว่า  The man pretended to be an expert on wine.
promise     สัญญา      She promised to come home by 7 p.m. (เวลาที่พูดจะพูดว่า She promised she would come home by 7 p.m. จะเหมาะกว่า)
propose    เสนอ        Drew proposed to pay for the trip.
refuse      ปฏิิบัติ      The driver refused to stop the car.
regret       เสียใจ     I regret to let you know that your car can't be fixed.
remember  จำได้่      Do you remember to pick up mum?
seem         ดูเหมือน  Somsak seems to be very satisfied.
start          เริ่ม       Margaret started to talk really fast.
swear        สาบาน   She swore to be a good girl.
tend         มีที่่ท่า/มีแนวโน้ม He tends to be a talkative person.
threaten    ขู่         He threatened to bomb the airport.
try            พยายาม  Rehanna tried to walk in the water, but the water was at chest level.
vow          สัญญา    He vowed to quit smoking.
want         ต้องการ  I want to try this amusement park.
wish         ปรารถนา  I wish to receive the call.
would like  อยาก     We would like to go inside now.
yearn        อยาก(มาก) Tracey yearns to travel in Thailand.


Mum seems to be the best for Red Curry.




ถึงเวลาพูดกัน เค้าก็ไม่ใช้แบบนี้หรอกนะ แต่ก็พอเป็นพิ้นฐาน เพื่อการสอบเอ็นทรานซ์ หรือสอบประจำบทละกันนะครับ ขอให้โชคดีในการสอบ

ทำไมโลก cyber ถึง มีคำว่า mania มากจังเรย

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้อ่านบล๊อกนี้ต้องกดคลิกฟังเพลงไปด้วย กดสิครับ




Mania (แม-เหนี่ย) คือสภาวะของความรู้สึก หรือภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับทุกคน คำจำกัดความ นั้นมีมากมายครับ ในที่นี้ครูเพ็ชรขอพูดถึง ภาวะที่ใครก็ตาม คลั่งไคล้ บ้าสิ่งไหนเอาแบบไม่ลืมหูลืมตานะครับ จากคำจำกัดความข้างล่างน่าจะช่วยได้อีก


Maniac (แม้ นิแอค)= person who has an obsession with or excessive enthusiasm for something
(แปลว่า คนที่คลั่งอะไรอย่างเอาเป็นเอาตาย)


อาการมนุษย์โลกมีกันแน่นอน แบบนี้น่ะ คือการคลั่งไคล้ ในบางครั้งอาจแสดงออกเกินความพอดีนะครับ บางคนคลั่งรถแข่ง ก็เป็น racing mania ถ้าชอบตุ๊กตาไบลท์ ก็เป็น Blythe Mania เลือกเอาเองนะครับ อยากเป็น mania แบบไหน


ไงคะ สวยพอให้คลั่ง มะคร้า 






ขอยกตัวอย่างประโยคสัก 1 ประโยคนะครับ


I am laughing like a maniac over this silly thing a friend has done, pity I can't share it on this blog.


ฉันกำลังหัวเราะอารามคนบ้ากับเรื่องไร้สาระที่เพื่อนได้ทำลงไป เสียดาย เอามาแบ่งปันในบล๊อกนี้ไม่ได้


ถ้าคุณชอบดอกไม้ คุณก็คือ flower mania นั่นเอง ครับ







และอีกหลาย ๆ ประโยค ที่นี่


คราวนี้มีคลิปที่พูดถึงว่าทำไมเราต้องมาคลั่งไคล้ ภาษาอังกฤษ ครูชอบที่เค้าบอกว่า มันเป็น  language of problem solving คือเป็นภาษาที่จะใช้แก้ปัญหา (นัยนี้คือจะเกิดความขัดแย้ง และการแข่งขันกันมากยิ่งขึ้น หรือช่วยให้ความกระจ่างในการเรียนรู้อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย) คนจีนกำลังจะมีกฏหมายให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง และขณะนี้ทั่วโลกมีคนเรียนภาษาอังกฤษอยู่ประมาณ 2 พันล้านคน 




Watch more of this video at TED

Contact Kru Petch on FaceBook
อย่าลืมคุยกันบ้่างนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

Kitchen Utensils อุปกรณ์ทำครัว จร้า


วันนี้กินมาม่าอีกแล้ว
วันนี้อากาศร้อนมากครับ

วันนี้คิดถึงตอนที่เดินเข้าไปฝึก In Villa Dining ที่โรงแรมบันยันทรี ภูเก็ต เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ปกติครูเพ็ชรชอบกินอยู่แล้วครับ เอาคำศัพท์ในครัวไปก็แล้วกันครับนะวันนี้ พร้อมคลิปสอนคำศัพท์ในครัวมากมาย 
เริ่มต้นที่คลิปพูดเรื่องการเลือกซื้อหม้อและกะทะ ฟังสิครับว่ากะทะเทฟล่อนจะต้องใช้ไฟประมาณเท่าไหร่ มีกะทะอะไรบ้าง กะทะอลูมิเนียม ต่างจากเทฟล่อนอย่างไร โอ๊ย มากมาย ฟังเลยจร้า


และตามด้วย Kitchen Utensils เป็นคลิปที่มีคำกริยาและคำศัพท์อุปกรณ์ทำครัวเยอะมาก



หลังจากนั้นเรียนรู้เทคนิคการใช้มีดกับเชฟคนเดียวกัน พูดถึงการหั่นหัวหอมแบบลูกเต๋า ใน Dicing Onions ครับ ฟังดีดี เชพพูดถึงส่วนประกอบของหอม จังหวะและวิธีการหั่น


สุดท้ายก็ต้องแปลคำศัพท์ให้ เอาไว้ใช้กันนะครับ มีไม่มากแต่เป็นประโยชน์มาก ๆ  
Baking Powder  ผงฟูทำขนมปัง
Baking Soda เบกกิ้งโซดา
Broiler – drawer beneath oven, used to keep food warm  ที่พักอาหารใต้เตาอบ
Can Opener  ที่เปิดกระป๋อง
Casserole Pan/Brownie Pan/Baking Pan ถาดอบ
Cookie Cutters –used to make shapes out of cookies, Jell-o, etc พิมพ์ตัดคุ้กกี้
Cookie Sheet – flat, metal pan used to bake cookies, bread …  แผ่นวางเพื่ออบคุ้กกี้
Cooking Pot หม้อต้ม
Cutting Board เขียงหั่น
Frying pan – like a wok, but not as deep กะทะทอด
Measuring Cups – used to measure ingredients when baking ถ้วยตวง
Microwave เตาไมโครเวฟ
Oven Mitt – used to protect your hands when taking hot things out of the oven  ถุงมือกันร้อน
Ice tray – used to make ice in the freezer ถาดทำน้ำแข็ง
Potato Peeler ที่ปอกเปลือกมันฝรั่ง ถ้าเป็นที่ปอกแตงบ้านเรา ก็เรียก peeler เฉยๆ คร้าบบบ
Pizza Cutter – circular knife used to cut pizza มีดตัดพิซซ่า


ครูเพ็ชร ก็เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละ




Pizza tray – circular, flat metal pan used to bake pizza ถาดพิซซ่า
Pot holder – used to put under hot pans/dishes ผ้ารองหม้อ
Rolling pin – circular, wooden or metal, used to roll dough for bread or cookies ไม้นวดแป้ง
Spatula ตะหลิว
Stove (stovetop) – the top part of an oven, used to heat/fry things – four burners on the top เตา
(Spaghetti) Strainer – used to drain noodles, meat, vegetables etc. ภาชนะกรองแยก
Tea ball – used to make “loose-leaf” tea ที่กรองชา
Thermos – an insulated cup used to keep drinks hot or cold กระติกน้ำเก็บความร้อน
Toaster เครื่องปิ้งขนมปัง
Tongs ที่คีบน้ำแข็ง
Tupperware – plastic containers with lids used to store extra food
Vanilla Oven – the part that opens from the front, used for baking เตาอบฝาหน้า
Whisk – usually used to mix liquids ที่ตีไข่ หรือที่ตีครีมให้ฟู

Wok – a deep pan usually used for cooking Asian food กะทะก้นลึก



มีเป็นรูปด้วยครับ



 คงจะใช้เวลาเรียนรู้กันพอสมควรนะครับ เรื่องอาหารการกิน ผมชอบมากครับ ไว้ว่าง ๆ จะมาแชร์อีก




วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประกันคุณภาพภายใน: การปฏิบัติเพื่อมุ่งเน้นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา

                                                                                                   รภัสศักย์ เหตุทอง
             การจัดการศึกษาเป็นภารกิจสำคัญโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสรรค์พลเมืองของชาติที่มีคุณภาพ ประเทศที่มีความเจริญย่อมเป็นผลมาจากการมีประชากรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมปัจจุบันให้ความสำคัญกับการศึกษา จึงส่งผลให้การแข่งขันมีความเข้มข้นมากขึ้น หากต้องการให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในภูมิภาคเดียวกันและในระดับสากลนั้น จะต้องพัฒนาประชากรให้มีความรู้ ความสามารถ ในสาขาวิชาต่าง ๆ สามารถสื่อสารได้ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ตลอดจนรอบรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก
            การศึกษาของไทยนั้นได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระดับใหญ่ๆ คือการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี กับการศึกษาขั้นอุดมศึกษา เนื่องจากการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าการศึกษาขั้นอุดมศึกษา จำเป็นที่รัฐต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาและเป็นการศึกษาในระดับที่จำเป็นต่อคนส่วนใหญ่ของประเทศที่จะต้องมี ประกอบกับเป็นการศึกษาที่เป็นการศึกษาในเบื้องต้นที่จะต้องนำไปใช้เพื่อการศึกษาในระดับขั้นสูงต่อไปจึงควรที่จะให้ความสำคัญในการที่จะพัฒนามาตรฐานการศึกษาในขั้นพื้นฐานนี้ให้มีคุณภาพ เพื่อจะได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะเป็นกำลังอันสำคัญของประเทศต่อไป
             ถึงแม้ว่าคุณภาพและมาตรฐานเป็นคำที่หาข้อยุติได้ยากกว่า คืออะไรแน่ เพราะคำ ทั้งสองผันแปรไปตามวัตถุประสงค์ กิจกรรมแต่ละประเภทรวมทั้งมิติและมุมมองที่แตกต่างกัน  อย่างไรก็ตาม  คุณภาพกับมาตรฐานเป็นคำที่แยกกันไม่ออก  สิ่งที่มีคุณภาพจะต้องมีมาตรฐานด้วย  และสิ่งที่ได้มาตรฐานก็ต้องเป็นสิ่งที่มีคุณภาพ  เพราะมาตรฐานคือตัวกำหนดคุณภาพอันเป็นลักษณะที่พึงประสงค์
             การปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช  ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มีเป้าหมายหลัก คือ การพัฒนาคนไทยทุกคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น  ได้อย่างมีความสุข ให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ให้ทุกส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา โดยมีการดำเนินงานด้านกฎหมาย  การกำหนดนโยบายและแผน รวมทั้งการนำแผนไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริงในปัจจุบันที่คุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยอยู่ในภาวะถดถอย ถือเป็นวาระของชาติที่จะต้องช่วยกันยกระดับคุณภาพการศึกษา ดังนั้นจึงมีการประกันคุณภาพการศึกษาขึ้น ดังที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ หมวด ๖ มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา มาตรา ๔๗ ได้กล่าวไว้ว่า ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับด้วยระบบการประกันคุณภาพภายใน และระบบการประกันคุณภาพภายนอก ซึ่งระบบประกันคุณภาพ จะนำไปสู่การพัฒนามาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษานั้น ๆ เกิดประโยชน์ต่อหลาย ๆ ฝ่าย ระบบประกันคุณภาพจะทำให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาตนเองจนผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือมีความเป็นเลิศ ซึ่งจะเกิดผลดีแก่ผู้เรียน ทำให้ประชาชนมีความเสมอภาคในการรับบริการการศึกษาที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน  ระบบประกันคุณภาพจะช่วยให้ไม่มีสถานศึกษาใดเป็นสถานศึกษาที่ไร้คุณภาพ การที่สถานศึกษาจะสามารถประกันคุณภาพตนเองได้นั้น จะต้องเริ่มจากการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของตนเองก่อน
         มาตรฐานการศึกษา คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริม กำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา  มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด 18 มาตรฐาน และแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้

1. มาตรฐานด้านคุณภาพผู้เรียน ได้แก่
        1.1  มาตรฐานที่ 1  ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและ  ค่านิยมที่พึงประสงค์
        1.2  มาตรฐานที่ 2  ผู้เรียนมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม
        1.3  มาตรฐานที่ 3  ผู้เรียนมีทักษะในการทำงานรักการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
        1.4  มาตรฐานที่ 4  ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์  คิดไตร่ตรองและ มีวิสัยทัศน์
        1.5  มาตรฐานที่ 5  ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร
        1.6  มาตรฐานที่ 6  ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
        1.7  มาตรฐานที่ 7  ผู้เรียนมีสุขนิสัย สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี
        1.8  มาตรฐานที่ 8  ผู้เรียนมีสุนทรียภาพและลักษณะนิสัยด้านศิลปะ ดนตรี และกีฬา

2. มาตรฐานด้านการเรียนการสอน  ได้แก่
        2.1 มาตรฐานที่ 9  ครูมีคุณธรรม จริยธรรม มีวุฒิ/ความรู้ ความสามารถตรงกับงานที่รับผิดชอบ หมั่นพัฒนาตนเองเข้ากับชุมชนได้ดี และมีครูพอเพียง
        2.2  มาตรฐาน 10 ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ


3. มาตรฐานด้านการบริหารและการจัดการศึกษา ได้แก่
        3.1 มาตรฐานที่ 11  ผู้บริหารมีคุณธรรม จริยธรรม มีภาวะผู้นำ และมีความสามารถในการบริหารจัดการศึกษา
        3.2  มาตรฐานที่ 12  สถานศึกษามีการจัดองค์กร โครงสร้าง ระบบการบริหารงานและพัฒนาองค์กร อย่างเป็นระบบครบวงจร
        3.3  มาตรฐานที่ 13  สถานศึกษามีการบริหารและจัดการศึกษาโดยใช้สถานศึกษาเป็นฐาน
        3.4  มาตรฐานที่ 14  สถานศึกษามีการจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
        3.5  มาตรฐานที่ 15  สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพผู้เรียนอย่างหลากหลาย
        3.6  มาตรฐานที่ 16  สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมและการบริหารที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติเต็มศักยภาพ

4. มาตรฐานด้านการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ ได้แก่
        4.1  มาตรฐานที่ 17  สถานศึกษามีการสนับสนุนและใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาในท้องถิ่น
        4.2  มาตรฐานที่ 18  สถานศึกษามีการร่วมมือกันระหว่างบ้าน องค์กรทางศาสนา สถาบันทางวิชาการ และองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาวิถีการเรียนรู้ในชุมชน
                ซึ่งหลักการ และวิธีการของประกันคุณภาพภายใน คือการควบคุมคุณภาพ การตรวจสอบคุณภาพ และการประเมินคุณภาพ เขียนเป็นขั้นตอนได้ดังนี้
           1.  การควบคุมคุณภาพ  เป็นการกำหนดมาตรฐานคุณภาพ  และการพัฒนาสถานศึกษาให้เข้าสู่มาตรฐาน
           2.  การตรวจสอบคุณภาพ  เป็นการตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
           3.  การประเมินคุณภาพ  เป็นการประเมินคุณภาพของสถานศึกษา  โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลในเขตพื้นที่  และหน่วยงานต้นสังกัดในส่วนกลาง  จะดำเนินการตรวจเยี่ยมเป็นระยะๆ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานต้นสังกัด  เพื่อให้การช่วยเหลือและส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพอันเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนรับการประเมินภายนอก  จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาซึ่งเป็นองค์กรมหาชน
กฎกระทรวง ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการ ประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553  มี 3 หมวด และในหมวด 2 กล่าวว่า การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในที่นี้จะกล่าวเพียงส่วนที่ 1 ซึ่งใช้บังคับเฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ซึ่งมีสาระสำคัญของการดำเนินการประกันคุณภาพภายใน มีขั้นตอนด่อไปนี้
(1) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
             (2) จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา
                    ของสถานศึกษา
             (3) จัดระบบบริหารและสารสนเทศ
             (4) ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
                            (5) จัดให้มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา
                            (6) จัดให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
                            (7) จัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน
                            (8) จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

หลักการสำคัญของการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษามี 3 ประการ คือ
              1. จุดมุ่งหมายของการประกันคุณภาพภายในคือ การที่สถานศึกษาร่วมกันพัฒนาปรับปรุงคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา ไม่ใช่การจับผิดหรือทำให้บุคลากรเสียหน้า โดยเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การพัฒนาคุณภาพให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
               2. การที่จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามข้อ1.1ต้องทำให้การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารจัดการและการทำงานของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษาโดยสถานศึกษาจะต้องวางแผนพัฒนาและแผนปฏิบัติการที่มีเป้าหมายชัดเจน ทำตามแผนตรวจสอบประเมินผลและพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบที่มีความโปร่งใสและมีจิตสำนึกในการพัฒนาคุณภาพในการทำงาน
              3. การประกันคุณภาพเป็นหน้าที่ของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู อาจารย์และบุคลากรอื่นๆในสถานศึกษาโดยในการดำเนินงานจะต้องให้ผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้เรียน ชุมชน ติดตามผลพัฒนาปรับปรุง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำผลักดันให้สถานศึกษามีคุณภาพ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่ดีมีคุณภาพ เป็นไปตามความต้องการของผู้ปกครอง สังคมและประเทศชาติ
ในการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตลอดจนการเตรียมการรับการประเมินคุณภาพการศึกษาจากองค์กรภายนอก (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ (สมศ.) สถานศึกษาแต่ละแห่งมีแนวทางในการดำเนินงานในการประกันคุณภาพด้วยกระบวนการพัฒนาที่เหมาะสมกับสถานศึกษา เช่นยึดหลักการดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพตามวงจรของ เดมมิ่ง อันได้แก่ การวางแผน (Plan) การปฏิบัติตามแผน (Do) การตรวจสอบหรือประเมินผลการปฏิบัติงาน (Check) และการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนา (Action)  ซึ่งโรงเรียนและสถานศึกษาส่วนใหญ่ใช้ระบบ เดมมิ่ง ในการบริหารคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพภายในมีผลดี คือ ทำให้โรงเรียนที่ยังไม่มีทิศทางในการบริหารการศึกษาหรือมีมาตรฐานด้อยกว่าโรงเรียนอื่น  โรงเรียนนั้น ๆ ได้มีการพัฒนาตนเองขึ้นสู่มาตรฐานของประเทศ  แต่มีข้อเสีย คือ จะทำให้โรงเรียนจำนวนหนึ่งที่เคยโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง จะต้องทุ่มเทเวลากับการทำมาตรฐานตามกรอบมาตรฐานกลาง ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานขั้นต่ำ ในที่สุดโรงเรียนทุกโรงเรียนจะมีคุณภาพในระดับมาตรฐานกลาง ความโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษก็จะค่อย ๆ ถูกกลืนกลบไปกับการมุ่งทำแต่มาตรฐานกลาง
                โรงเรียนควรจะเพิ่มมาตรฐานคุณภาพที่เป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนและด้านการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ ที่เพิ่มเติมจากมาตรฐานกลางของ สมศ. เพื่อความเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน เช่น เมื่อ สมศ.กำหนดมาตรฐานกลาง 4 มาตรฐาน โรงเรียนก็ควรกำหนดมาตรฐานเพิ่ม เช่น  มาตรฐานที่ 5:  ภูมิปัญญาท้องถิ่น  หรือมาตรฐานที่ 6 : การอยู่รวมกันในสังคมอย่างมีความสุข หรือมาตรฐานใด ๆ ก็ตามที่ตอบสนองความต้องการของชุมชนในเชิงความมั่นคง การประกอบอาชีพ หรือการมีความรู้ในเรื่องของชุมชน หรือการจัดการศึกษาตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทำให้จำนวนมาตรฐานของโรงเรียนมีมากกว่ามาตรฐานการประกันคุณภาพภายนอก   อีกทั้งโรงเรียนจะผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพตามมาตรฐานกลางของประเทศ แต่จะมีการสร้างนักเรียนที่มีมาตรฐานที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองตามความคาดหวังหรือความต้องการของชุมชนได้ด้วยเช่นกัน
เพื่อการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาให้มีความเป็นเลิศตามศักยภาพและสภาพจริงของบริบทชุมชน มาตรฐานการประกันคุณภาพภายนอกของ สมศ. จะกลายเป็น "มาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายนอก" เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่ทำให้ทุกโรงเรียนตระหนักว่า จะต้องมีมาตรฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างความแตกต่างและเน้นความมีเอกลักษณ์เฉพาะตนของโรงเรียนหรือเน้นความเป็นเลิศเฉพาะทาง
แนวทางการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในได้กล่าวเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการว่าเป็นภาระงานปกติที่ทุกคนจะต้องรับผิดชอบผลร่วมกัน สถานศึกษาจะต้องปลูกจิตสำนึกให้ครูและบุคลากรทุกคนยึดถือไว้เสมอว่าการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในนั้นเป็นวัฒนธรรมการทำงานปกติของสถานศึกษา และอีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือการกำหนดมาตรฐานซึ่งแสดงอัตลักษณ์ของสถานศึกษา เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของสถานศึกษาร่วมกัน และต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา หากกระทำเพื่อมุ่งเน้นเอกลักษณ์ของสถานศึกษานั้นก็เป็นเรื่องที่เคยเกิดขั้นมานานแล้ว และเป็นเรื่องที่สถานศึกษาหลายแห่งสามารถทำได้ สถานศึกษาสามารถร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับ ดูแลและสนับสนุนส่งเสริมของหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเชิงคุณภาพให้กับผู้ปกครอง ชุมชน และสร้างความมั่นคงอย่างถาวรให้กับระบบการจัดการเรียนการสอน ด้วยเหตุผลที่ว่า ในท้ายที่สุดแล้วประชากรจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรมอันดีงาม และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข



เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. 2546. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 พร้อมกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ.

จินดา ตาทิพย์. การประกันคุณภาพการศึกษา : นวัตกรรมใหม่ของการปฏิรูปการศึกษาไทย
(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.vcharkarn.com/vblog/36959

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. 2545. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545. กรุงเทพฯ  :  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.

สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ. 2550. สภาวะการศึกษาไทย 2549/2550. สำนักนายกรัฐมนตรี

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา.2544. กรอบการประเมินคุณภาพภายนอกระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา

สำนักทดสอบทางการศึกษา.2553. แนวทางพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา




ติดต่อมา ที่ Facebook ของครูเพ็ชร ได้ครับ





ออกเสียงภาษาอังกฤษ (เรียนด้วยกันกับ youtube) Episode 1

ครูเพ็ชร  ขอใช้ youtube ในการช่วยสอนนะครับ เอาเป็นเสียงที่นึกออก และอยากฝึกในตอนนี้ก่อนครับ คิดเสียว่า youtube เป็นกระจก แล้ว ออกเสียงตามไป ถ้ามีคำถามอะไรก็ post ในช่องแสดงความเห็นได้เลยนะครับ อย่าลืมให้กำลังใจด้วยนะครับ

เสียงตัว B บี /b/(เบอะ)
ความแตกต่างระหว่างเสียง /b/(เบอะ) กับ /p/(เพอะ)
ความแตกต่างระหว่างเสียง /b/(เบอะ)กับ /v/(เฟวอะ)


เสียงตัว L แอล /L/(เลอะ)
บทที่ 4a L Sound


เสียง R อาร์ /r/(เรอะ)
เสียง R แบบอเมริกัน (American Accent R sound) เค้าเรียกว่า Rolling R หรือ โรลลิ่ง อาร์ ออกเสียงไม่เหมือนกับ R ในภาษาอังกฤษ แบบอังกฤษ ซึ่งไม่นิยมออกเสียงตัว R ดัง ๆ ลองชมดูนะครับ


เสียง TH ทีเอ๊ช /th/(เธอะ)
เสียง TH มีทั้งแบบเสียงก้อง และเสียงไม่ก้อง ถ้าจะจำมันเก็ค่อนข้างเยอะนะครับ อ่านดูครับ
ตวามรู้เกี่ยวกับเสียง TH


เรียนรู้เสียง TH ผ่าน youtub ของ English with Jennifer
บทที่ 1a การออกเสียง TH แบบเสียงไม่ก้อง ออกเสียงโดยเอาลิ้นไปอยู่ระหว่างฟันบนและฟันล่าง โดยให้ลมผ่านออกมาทั้งด้านบน และด้านล่างของลิ้น


บทที่ 1b การออกเสียง TH แบบเสียงไม่ก้อง ใช้แผนทีเมืองสมมุติที่อยู่ของคน และสถานที่ที่มี TH ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น


บทที่ 2 การออกเสียง TH แบบเสียงก้อง ออกเสียงโดยเอาลิ้นไปอยู่ระหว่างฟันบนและฟันล่าง โดยให้ลมผ่านออกมาทั้งด้านบน และฟันล่างของลิ้น จะต่างกับแบบไม่ก้องก็คือ ตอนที่เราออกเสียงให้ลมออกมาน้อยกว่าแบบไม่ก้อง จะเกิดการสั่นบริเวณปลายลิ้น สั่น สั่น สั่น




มีแหล่งเรียนรู้เรื่่อง Phonics อีกมากมายนะครับ แบ่งกัน จะได้ออกเสียงกันเก่ง ๆ

International Dialects of English Archive

International English phonetics

Pronunciation links

ShiporSheep

Sounds of English

ugoeigo pronunciation - mouth video clips


อย่าเพิ่งลิ้นพัน ฟันสึก กันก่อนล่ะครับ ในภาค 2 จะมาเรียนรู้วิธีการออกเสียงกันเพิ่มเติม มีคลิปอยู่อันนึง เป็นการจงใจให้พูดเป็นสำเนียงฝรั่งเศส ลองฟังแล้ว แสดงความคิดเห็นดูนะครับ

ผมพยายามแล้ว ฮั้ม บา ก่า
ไอ วู้ด ไล้คฺ ทู บาย อะ แฮ้มเบอเก่อร์ ฮา ขี้แตกขี้แตน จริง ๆ

มีนักเรียนแบบนี้ ครูเพ็ชรตายแน่ ๆ 


อยากคุยกันติดต่อมาที่ Facebook ของครูเพ็ชร ได้ครับ